เรื่องเล่า “เจ้ากรรมนายเวร” ตอนที่ ๓

ความเมตตาของหลวงพ่อ

หลังจากทำงานอยู่ในเขตภาคเหนือตอนบน(เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน)ได้สักประมาณ 2-3 ปี ก็ได้เลื่อนตำแหน่งและต้องย้ายไปประจำในเขตภาคเหนือตอนล่าง(นครสวรรค์ อุทัย ชัยนาท) และที่นี่ผมได้พบกับหลวงพ่อที่มีเมตตาสั่งสอนผมตั้งแต่การปฏิบัติเบื้องต้น เช่น การกราบพระ การปฏิบัติกัมมัฏฐาน การสั่งสมคุณงามความดี

ผมได้มีโอกาสรู้จักกับ ‘วัดไกลกังวล’ หรือที่บางคนเรียกว่า ‘เขาสารพัดดีศรีเจริญธรรม’ อยู่ที่อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท โดยการแนะนำของภรรยา เนื่องจากเธอทำงานเป็นออแกไนเซอร์ต้องตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆที่ลูกค้าต้องการโปรโมทสินค้า ซึ่งลูกค้าของเธอที่อำเภอหันคาแนะนำให้ไปเยี่ยมชมที่วัดไกลกังวล เพราะเขาไปถือศีลที่วัดนี้เป็นประจำ และที่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นการปฏิบัติธรรมของผม

ปรกติผมจะเป็นมนุษย์ที่ออกแนวเฟอะฟะเล็กน้อย คือ ไม่ค่อยจะรู้กฎระเบียบของสงฆ์เท่าที่ควร วันแรกที่ผมไปกราบหลวงพ่อท่านมองมาที่ผมอย่างมีเมตตา เมื่อผมก้มลงกราบครั้งแรกท่านก็ยิ้มซึ่งเป็นบุคลิกประจำตัวของท่านแล้วพูดว่า “โยมกราบใหม่” ขณะนั้นผมนั่งกราบในท่านั่งพับเพียบ เมื่อหลวงพ่อพูดจบผมก็ก้มลงกราบท่านในท่าเดิมอีกครั้ง หลวงพ่อก็พูดขึ้นว่า “เอาใหม่โยม ลุกขึ้นนั่งคุกเข่า มือประสานไว้ที่หน้าอกแล้วก้มลงกราบ ตอนกราบข้อศอกแตะกับหัวเข่าแล้วกราบ 3 ครั้ง เอ้า! ลองใหม่นะโยม” หลวงพ่อท่านมีเมตตาสอนผมละเอียดขนาดนี้

คนที่อยู่ในวัดประจำจะรู้กิตติศัพท์ดีว่าหลวงพ่อท่านดุมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมไปนอนวัด ปรกติแล้วที่พักอุบาสกจะอยู่ที่ชั้นล่างของหอสวดมนต์ และมีอาจารย์ใหญ่ยืนอยู่ข้างๆที่นอน อาจารย์ใหญ่ของผมคือ โครงกระดูกมนุษย์ถูกเรียงกันในท่ายืนอยู่ในตู้กระจก 2 ตู้ เวลาเข้าไปนอนในที่พักใหม่ๆก็คิดฟุ้งซ่านทำให้นอนไม่ค่อยหลับ แต่หลังๆก็ชินไปเอง ทีนี้เวลาเดินจากบนหอสวดมนต์ลงมาด้านล่าง เมื่อเดินตามทางปรกติผมมีความรู้สึกว่ามันอ้อมไปหน่อย แต่ผมเห็นทางเดินเล็กๆตัดตรงลงมาจากหอสวดมนต์ผมว่ามันเป็นทางลัดระยะทางสั้นดี ผมก็เลยเดินลงมาทางนั้นขณะที่ผมเดินลงมาเห็นหลวงพ่อท่านนั่งก้มหน้าทำงานของท่าน ซึ่งบริเวณด้านหน้าศาลาที่หลวงพ่อทำงานจะมีสุ้มที่นั่งเล็กๆสำหรับญาติโยมอยู่ 2-3 หลัง ผมก็เลยนั่งพักแถวนั้น หลวงพ่อท่านก็ไม่ได้สนใจอะไรผม แต่สักพักมีแม่ชีเดินลงมาทางเดียวกับที่ผมเดินมาเมื่อกี้นี้ จากนั้นก็เดินผ่านหลวงพ่อไป และทันใดนั้นหลวงพ่อก็หันควับมาที่แม่ชี ผมสังเกตเห็นท่านทำตาดุๆ หลังจากนั้นผมมีความรู้สึกว่าแม่ชีจะมีอาการตัวสั่นของที่ถืออยู่ในมือแทบจะกระเด้งตกลงมาที่พื้นเลยทีเดียว ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าแม่ชีทำอะไรผิด แต่ผมเห็นสายตาดุๆของหลวงพ่อแล้วผมก็ไม่อยากจะเสียเวลาหาคำตอบ เพราะมันจะต้องเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีแน่ๆ เมื่อถึงจังหวะนี้ผมก็เลยใช้วิชาตัวเบาหลบออกจากตรงนั้นแทบจะทันทีทันใดเหมือนกัน

หลวงพ่อจะมีเมตตากับผมเสมอ แม้ผมจะเฟอะฟะขนาดไหนก็ตาม ไปกราบท่านเมื่อไหร่ท่านจะถามทุกครั้ง “กรรมฐานเป็นไงบ้างโยม” คำตอบที่ท่านได้จากผมคือ “ไม่ค่อยคืบหน้าครับ มีแต่ปวดขาอย่างเดียวเลยครับ” หลวงพ่อก็เมตตาตอบพร้อมกับรอยยิ้มของท่าน “ไม่เป็นไร อยู่บ้านก็ค่อยๆทำไป ว่างเมื่อไรก็มานอนที่วัด ละจากบ้านมาถือศีลที่วัดเราจะได้เนกขัมมบารมี”

เพื่อป้องกันความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ไม่อนุญาตให้สำเนาข้อความทุกรูปแบบเพื่อไปเผยแพร่ที่อื่น สามารถทำลิงค์มายังเว็บไซต์นี้ได้

รูปปั้นมังกรตั้งอยู่ด้านหน้าของอุทยานสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *